Integration of third-party libraries
Last updated
Last updated
React อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีสุดสำหรับการสร้างส่วนประสานกับผู้ใช้ (UI) ตัว React มีการออกแบบโครงสร้างที่ดี รวมถึงมีการสนับสนุน และมีกลุ่ม community ที่ดี อย่างไรก็ตามก็ยังมีในหลายกรณีที่เราต้องการจะใช้ service ภายนอก หรือต้องการที่จะใช้งานกับอะไรสักอย่างที่มันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง พวกเราทั้งหมดรู้ว่า React ทำงานอย่างหนักกับตัว DOM (Document Object Model) จริง ๆ ของเว็บ และการควบคุมอะไรก็ตามที่จะแสดงผลออกมาทางหน้าจอเป็นพื้นฐาน นั่นก็คือเหตุผลที่การการใช้งานควบคู่กับ third-party software ค่อนข้างที่จะต้องใช้เทคนิคที่อาจจะยุ่งยาก ในส่วนนี้เราจะแสดงการใช้งาน React ควบคู่กับ jQuery's UI plugin และค่อย ๆ ทำมันอย่างปลอดภัย
ผมได้เลือกใช้ tag-it ซิ่งเป็นส่วนเสริมตัวนึงของ jQuery มาใช้เป็นตัวอย่างนะครับ มันเอาไว้แปลงแท็ก (tag) ul ที่เอาไว้แสดงผลข้อมูลรายการที่ไม่เป็นลำดับให้กลายเป็นตัวป้อนข้อมูลที่จะไว้ใช้ในการจัดการแท็ก
จากภาษา HTML ด้านล่างนี้:
แสดงผลได้ดังนี้:
เพื่อให้มันทำงานได้ เราจำเป็นจะต้องมี jQuery, jQuery UI และที่ขาดไม่ได้คือ plugin tag-it; tag-it มันใช้งานประมาณนี้ครับ:
อธิบายก็คือเราเลือก DOM element และไปเรียกใช้งานฟังก์ชันที่ชื่อ target()
เอาละครับ มาสร้าง React app ง่าย ๆ ขึ้นมาตัวนึง ที่จะมาลองใช้กับ plugin:
เข้าไปที่ class ที่ชื่อว่า App
มันใช้งานตัว component ที่ชื่อว่า Tags
ที่จะทำการแสดงผลเจ้าตัวรายการที่ไม่เป็นลำดับ (unordered list) ด้วยการส่งค่าผ่าน props ที่ชื่อว่า tags
แล้วเมื่อ React ทำการแสดงรายการที่ว่าบนหน้าจอ เราจะรู้ว่าเรามีแท็ก <ul>
เพื่อเราสามารถเชื่อมมันเข้ากับ jQuery plugin
สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือการบังคับให้เกิดการ render เพียงแค่ครั้งเดียว (single-render) ของ component Tags
นั่นเพราะเมื่อ React เพิ่ม element ต่าง ๆ เข้าไปที่ DOM จริง ๆ (actual DOM) เราต้องการที่จะส่งการควบคุม element ต่าง ๆ ไปให้ jQuery ถ้าเราข้ามขั้นตอนนี้ไป React และ jQuery จะทำงานอยู่บน DOM ตัวเดียวกัน โดยไม่รู้ซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดการ render ครั้งเดียว เราจะต้องใช้ method ที่อยู่ใน lifecycle ของ React ที่ชื่อว่า shouldComponentUpdate
อย่างเช่นโค้ดด้านล่างนี้:
โดยการส่งค่ากลับมาเป็น false
เสมออย่างนี้ เรากล่าวว่า component ของเราจะไม่ re-render อีก การใช้งาน method shouldComponentUpdate
เพื่อให้ React รู้ว่าต้องมีการ render
ใหม่หรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องทำเพราะว่า เราจะใช้ React เพื่อวางโครงสร้างเว็บ แต่หลังจากนั้นเราไม่ต้องการที่จะให้มันมายุ่งเกี่ยวกับการ render
ใหม่อีก
React มี API มาตัวนึงสำหรับการเข้าถึง DOM nodes จริงๆ ที่อยู่ใน HTML (actual DOM nodes) เราจะต้องใช้ attribute ที่ชื่อว่า ref
กับตัว node และเราจะใช้การเข้าถึงตัว node ผ่าน this.refs
ซึ่ง componentDidMount
เป็น lifecycle method ที่เหมาะสำหรับการเรียกใช้ plugin tag-it นั่นเป็นเพราะว่ามันจะถูกเรียกเมื่อ React นำผลลัพธ์จาก method render ไป mount ใน DOM nodes จริง ๆ
ตัวโค้ดที่อยู่ด้านบนกับ method shouldComponentUpdate
ทำให้ React จะ render ตัว <ul>
ที่มีสองอัน () หลังจากนั้นตัว tag-it จะแปลงมันให้เป็น widget สำหรับการแก้ไขตัว tag
สมมติว่าเราต้องการที่จะโปรแกรมเพิ่ม แท็กตัวใหม่ที่กำลังทำงานอยู่แล้วกับ tag-it การทำงานดังกล่าวจะถูกเรียกใช้งานโดย React component และต้องการใช้ jQuery API ด้วย; เราต้องหาวิธีที่จะติดต่อ component ที่ชื่อว่า Tags
ให้มีการ render
ถ้ามีการแก้ไขข้อมูล แต่ยังคงใช้วิธีการ single-render เหมือนเดิม
เพื่อแสดงขั้นตอนทั้งหมด เราจะเพิ่มตัวป้อนข้อมูลเข้าไปที่คลาส App
และปุ่ม ซึ่งถ้าปุ่มถูกคลิกจะส่งตัวอักขระไปให้ component ที่ชื่อ Tags
เราใช้ state ภายใน class App
เป็นเหมือนกับที่เก็บข้อมูลสำหรับค่าของตัวที่พึ่งถูกเพิ่มเข้าในในฟิลด์ใหม่ ทุกครั้งที่เราคลิกตัวปุ่ม ตัว React จะทำการอัปเดต state และจะไปเรียกการ re-rendering ของ component Tags
อย่างไรก็ตามเพราะว่า shouldComponentUpdate
React จึงไม่มีการอัปเดตใด ๆ บนหน้าจอ สิ่งอย่างเดียวที่เปลี่ยนนั่นคือเมื่อเราได้ค่าใหม่ของ prop ที่ชื่อว่า newTag
ซึ่งอาจถูกจับมาได้ด้วย lifecycle method ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า componentWillReceiveProps
:
.tagit('createTag', newProps.newTag)
คือโค้ดที่เป็น pure jQuery; componentWillReceiveProps
คือ lifecycle method ที่เหมาะสมสำหรับการเรียก method ที่มาจาก third-party library
นี่คือโค้ดที่สมบูรณ์ของ component Tags
:
ถึงแม้ว่า React จะเป็นคนจัดการ DOM tree เราสามารถก็ที่ยังสามารถใช้งานกับ third-party libraries และ services โดยให้ lifecycle method ต่าง ๆ เป็นตัวเชื่อมระหว่าง React กับ non-React code